เครื่องเป่า
เครื่องเป่า ใบไม้เป็น เครื่องเป่าที่มีมาแต่ดึกดำบรรพ์ จ้องหน่อง เป็นทั้งเครื่องเป่า และ เครื่องตี รวมกันอยู่อันเดียวกันทำด้วยไม้ไผ่การเล่นจะต้องตีและเป่าพร้อมกัน แคน เป็นเครื่องเป่าที่นิยมมากในอิสาน ปี่ ที่เป็นของไทยมีปี่นอกเสียงแหลมกว่าเรียกว่าปี่ในปี่ไฉนไทยได้แบบมาจาก อินเดีย ปี่ชวาปี่มอญปี่ซอ ปี่อ้อใช้ในการบรรเลงเพลงพื้นเมืองปี่ใช้ในวงปี่พาทย์เทคนิคในการเป่า้ ได้ทนกินเวลานานโดยไม่เหนื่อยคือเวลาเป่าลมออกไปนักเป่าปี่จะใช้ช่องจมูกดูดลมเข้าไปเก็บไว้สำรอง เสียงที่เป่าลมออกจึงไม่ขาดเพราะการหยุดหายใจเข้า ปี่ ขลุ่ย ที่ทำด้วยไม้เจาะรูกลวง ตลอดเลาขลุ่ย แล้วเจาะรูกลมบนเลาขลุ่ยอีก7รู ๑.ขลุ่ยหลีบ ขลุ่ยหลีบหรือขลุ่ยหลีกเป็นขลุ่ยขนาดเล็กที่สุด เกิดขึ้นในสมัยต้นรัตนโกสินทร์ มีความยาว ประมาณ 25 ซ.ม. กว้างประมาณ 2 ซ.ม. มีเสียงสูงกว่าขลุ่ยเพียงออ 3 เสียง เป็นขลุ่ยชนิดเดียวที่เป็นเครื่องดนตรีประเภทเครื่องนำ ใช้ผสมในวงเครื่องสายเครื่องคู่ และวงมโหรีเครื่องใหญ่ ๒.ปี่ ปี่ เป็นเครื่องดนตรีไทย ทำด้วยไม้จริงเช่นไม้ชิงชันหรือไม้พยุง กลึงให้เป็นรูปบานหัวบานท้าย ตรงกลางป่อง เจาะภายในให้กลวงตลอดเลา ทางหัวของปี่เป็นช่องรูเล็กส่วนทาง ปลายของปี่ ปากรูใหญ่ใช้ชันหรือวัสดุอย่างอื่นมาหล่อเสริมขึ้นอีกราวข้างละ ครึ่งซม ส่วนหัวเรียก ทวนบน ส่วนท้ายเรียก ทวนล่าง ตอนกลางของปี่ เจาะรูนิ้วสำหรับเปลี่ยนเสียงลงมาจำนวน 6 รู แต่สามารถเป่าได้เสียงตรง 24 เสียง กับเสียงควงหรือเสียงแทนอีก 8 เสียง รวมเป็น 32 เสียง รูตอนบนเจาะเรียงลงมา 4 รู เว้นระยะห่างเล็กน้อย เจาะรูล่างอีก 2 รู ตรงกลางของเลาปี่ กลึงขวั้นเป็นเกลียวคู่ไว้เป็นจำนวน 14 คู่ เพื่อความสวยงามและกันลื่นอีกด้วย ตรงทวนบนนั้นใส่ลิ้นปี่ที่ทำด้วยใบตาลซ้อนกัน 4 ชั้น ตัดให้กลมแล้วนำไปผูกติดกับท่อลมเล็กๆที่ เรียกว่า กำพวด เรียวยาวประมาณ 5 ซม. กำพวดนี้ทำด้วยทองเหลือง เงิน นาก หรือโลหะอย่างอื่นวิธีผูกเชือกเพื่อ ให้ใบตาลติดกับกำพวดนั้น ใช้วิธีผูกที่เรียกว่า ผูกตะกรุดเบ็ด ส่วนของกำพวดที่จะต้องสอดเข้าไปเลาปี่นั้นเขาใช้ถักหรือเคียน ด้วยเส้นด้าย สอดเข้าไปในเลาปี่ให้พอมิดที่พันด้ายจะทำให้เกิดความแน่นกระชับยิ่งขึ้น คลิปVDO ตัวอย่าง ขลุ่ย ปี่ อ้างอิง:http://www.bs.ac.th/musicthai/page4.html |
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น